ขลิบไร้เลือด การขลิบในปัจจุบัน  สุราษฎร์ธานี

ขลิบไร้เลือด

การขลิบหนังหุ้มปลาย สำหรับประชาชนทั่วไป รวมถึงชาวสุราษฎร์ธานี อาจยังเป็นเรื่องที่ไม่คุ้นเคยหรือเข้าใจอย่างลึกซึ้ง บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อ ให้ความรู้ เกี่ยวกับ “การขลิบไร้เลือด” ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในปัจจุบัน อธิบายถึงเครื่องมือที่ใช้ ผลข้างเคียง และระยะเวลาในการพักฟื้น

ขลิบไร้เลือด

ขลิบไร้เลือด คืออะไร

การขลิบไร้เลือด (Staple Circumcision) คือการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย โดยใช้เครื่องมือที่สามารถตัดและเย็บอัตโนมัติในขั้นตอนเดียว ช่วยลดเลือดออก ลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อ และลดโอกาสการเกิดแผลเป็น

อย่างไรก็ตาม เครื่องมือขลิบไร้เลือดรุ่นทั่วไปอาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น ตัวเย็บจม แผลปริหลังแข็งตัว หรือการห้ามเลือดที่ไม่สมบูรณ์ จึงมีการพัฒนาเครื่องมือใหม่ขึ้นมาเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องเหล่านี้

ขลิบไร้เลือด

เครื่องมือขลิบไร้เลือดที่ได้รับการพัฒนา

มีการพัฒนาเครื่องมือรุ่นใหม่ซึ่งเรียกว่า “รุ่นไทเทเนียม” มีลักษณะเฉพาะดังนี้

  • ใบมีดคม ทำให้สามารถตัดหนังออกได้ในครั้งเดียว
  • ตัวเย็บผลิตจากวัสดุไทเทเนียม ช่วยให้แผลปิดได้แน่นหนา
  • เพิ่มซิลิโคนรองใต้ตัวเย็บ ช่วยลดแรงกดและป้องกันการจมของตัวเย็บ
  • ใช้เวลาผ่าตัดเพียงประมาณ 5 นาที

เครื่องมือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาโดยอิงตาม แนวทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและลดภาวะแทรกซ้อน

ขลิบไร้เลือด

ผลข้างเคียงจากการขลิบ

แม้การขลิบไร้เลือดจะช่วยลดปัญหาหลายด้าน แต่ก็ยังคงมีผลข้างเคียงหากไม่ได้รับการดูแลแผลที่เหมาะสม เช่น

  • แผลติดเชื้อ
  • แผลอักเสบหรือมีหนอง
  • รู้สึกเจ็บหรือบวมผิดปกติ

นอกจากนี้ยังมีผลที่พบบ่อยคือ ระยะเวลาการหลั่งอาจยาวนานขึ้น เนื่องจากหัวอวัยวะเพศสัมผัสสิ่งเร้าโดยตรงบ่อยขึ้น จึงลดความไวของเส้นประสาทได้

ขลิบไร้เลือด

ระยะเวลาในการพักฟื้น

ช่วงเวลาการพักฟื้นมีดังนี้

  • 3 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ
  • 1–2 สัปดาห์แรก หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงรัดแน่นและการออกแรง
  • ตัวเย็บหลุดประมาณ 20 วัน
  • แผลหายสนิทใน 4–6 สัปดาห์ (ในกรณีที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน)

ขลิบไร้เลือด

สรุป

การขลิบไร้เลือด เป็นหนึ่งในทางเลือกทางการแพทย์ที่พัฒนาเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดระยะเวลาพักฟื้น และลดปัญหาที่เคยพบจากวิธีเดิม อย่างไรก็ตาม ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก่อนเข้ารับการรักษา

author avatar
katanchalee rodthong

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *